คำค้นหายอดนิยม
Trying to save your favourites? Log in, or create an account.
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเรา
มาร่วมกันสร้างโลกที่ดีขึ้นไปกับเนสกาแฟ
3 นาที
read
เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Nescafé®ต้องใช้ความพยายามร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมาย ที่ Nescafé®เรามีทีมนักวิเคราะห์ที่มุ่งมั่นศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวางแผนเพื่อช่วยลดก๊าซเรือนกระจก เมื่อวิเคราะห์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Nescafé®จะติดตามทุกขั้นตอนตั้งแต่การขนส่ง การเกษตรเชิงฟื้นฟู การจัดส่ง แม้กระทั่งสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการบริโภค เรายังคงสร้างโปรแกรมเพื่อลดผลกระทบในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ปี 2010 เราได้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในโรงงานกาแฟที่ละลายน้ำได้ในยุโรปลง 49,6% นับเป็นก้าวที่ดี แต่ก็ยังมีอีกมากที่ Nescafé เชื่อว่าเราสามารถทำอะไรได้มากกว่า เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเรา
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในความท้าทายที่อุตสาหกรรมกาแฟต้องเผชิญ โดยเฉพาะ ก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emissions - GHGs) ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการปลูก ผลิต และขนส่งกาแฟ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม NESCAFÉ ตระหนักถึงปัญหานี้และมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทานกาแฟ เพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน และทำให้กาแฟในอนาคตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ทำงานกับแหล่งพลังงานธรรมชาติ
หนึ่งในขั้นตอนที่ดีที่สุดในการลดคาร์บอนคือดินและป่าที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับ Nescafé® การจัดการกับห่วงโซ่อุปทานในฟาร์มและเครือข่ายการขนส่งที่หลากหลาย เพื่อปกป้องทั้งดินและป่าไม้เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากอุตสาหกรรมกาแฟมาจากหลายแหล่ง ซึ่งรวมถึง การเพาะปลูกและการจัดการฟาร์มกาแฟ เพราะการปลูกกาแฟต้องใช้ปุ๋ย น้ำ และพลังงาน ซึ่งก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) และไนตรัสออกไซด์ (N₂O) โดยเฉพาะจากการใช้ปุ๋ยเคมี นอกจากนี้ยังรวมไปถึงกระบวนการแปรรูปและผลิตกาแฟ การคั่วกาแฟต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งหากใช้พลังงานจากแหล่งที่ไม่ยั่งยืน ก็จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น และยังรวมไปถึงบรรจุภัณฑ์และการขนส่ง ซึ่งการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ รวมถึงการขนส่งกาแฟไปยังผู้บริโภคทั่วโลก ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ทั้งสิ้น
จำนวนป่าที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ป่าในโลกของเราดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 2.6 พันล้านตันต่อปีหรือประมาณหนึ่งในสามของ CO2 ทั้งหมดที่ปล่อยออกมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เผาไหม้ ป่ายังให้ที่พักพิง พลังงาน วิถีชีวิตให้กับผู้คนประมาณ 1.6 พันล้านคน* ในขณะที่ประชากรทั่วโลกต้องการอาหารเพิ่มขึ้น ป่าก็มีความเสี่ยงที่จะถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่เพาะปลูก ซึ่ง Nescafe® กำลังทำงานต่อห่วงโซ่อุปทานที่ปราศจากการทำลายป่า 100% สำหรับกาแฟภายในปี 2568 และในปี 2569 ตั้งใจที่จะปลูกต้นไม้พื้นเมือง 20 ล้านต้นทั่วโลกเพื่อช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และเพื่อส่งเสริมความอุดมสมบูรณ์ของดิน มันเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ แต่ไม่ใหญ่เท่าที่ป่าของโลก
ภายในปี 2568 Nescafé® มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้กาแฟที่ปราศจากการทำลายป่า 100% และภายในปี 2569 มุ่งมั่นที่จะปลูกต้นไม้พื้นเมือง 20 ล้านต้นเพื่อช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและเพื่อส่งเสริมการก่อตัวของดินและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ความสำคัญของคุณภาพดิน
ดินที่ดีทำมากกว่าการปลูกกาแฟได้ดี แต่สามารถดักคาร์บอน ลดการกัดเซาะ และต้องใช้ปุ๋ยสังเคราะห์น้อยลง ในฐานะที่เป็นส่วนใหญ่ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในฟาร์มมาจากปุ๋ย Nescafé® กำลังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยโดยการฝึกอบรมให้กับเกษตรกร จากเวียดนามถึงเม็กซิโกบราซิล และอินโดนีเซีย โปรแกรมภาคสนามของ Nescafé®ได้ช่วยปรับปรุงวิธีการทำฟาร์มส่งผลต่อฟาร์มโดยใช้การผสมผสานที่ลงตัวของปุ๋ยสังเคราะห์ อินทรีย์ และลดการใช้ agrichemicals ดังนั้นดินที่มีสุขภาพดีช่วยในการปลูกกาแฟที่ยั่งยืนมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ
เพื่อช่วยให้เนสท์เล่เข้าถึง Net Zero ภายในปี 2050 มิใช่เพียงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ยังเกี่ยวกับการทำสิ่งเล็กๆ มากมาย เริ่มต้นโรงงาน Nescafé® ทั้งหมดมีจุดมุ่งหมายที่จะใช้กระแสไฟฟ้าทดแทน 100% ภายในปี 2568 นอกจากนี้เรายังทำงานเพื่อช่วยสร้างระบบหมุนเวียน
ที่ง่ายต่อการรวบรวมรีไซเคิล และนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่ง Nescafé® ยังมีจุดมุ่งหมายที่จะขยายยานพาหนะไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวภาพไฮบริดหรือรถไฮบริดปลั๊กอิน และสำหรับผู้บริโภคส่งเสริมวิธีการเตรียมการที่ดีขึ้นและเคล็ดลับการรีไซเคิล เช่น น้ำเดือดที่ 80 ° C แทนที่จะเป็น 100 ° C และเติมน้ำมันด้วยน้ำ เรากำลังอยู่บนเส้นทางเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเรา
รายการโปรดของชุมชนในปัจจุบัน
ค้นหาบทความที่มีความสุขมากที่สุดจากทั่วทุกมุม
